ยางก้านปัดน้ำฝนเป็นส่วนหนึ่งของรถที่มักถูกมองข้าม แต่มีความสำคัญมากในการช่วยให้เรามองเห็นทางชัดเจนในขณะฝนตก เมื่อยางก้านปัดน้ำฝนเริ่มเสื่อมสภาพ การปัดน้ำฝนจะไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ทัศนวิสัยขณะขับขี่ลดลง ดังนั้นการสังเกตอาการเสื่อมสภาพและดูแลรักษาให้ยางปัดน้ำฝนใช้งานได้นานขึ้นเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้เราสามารถขับรถได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาพอากาศ
จุดสังเกตยางที่ปัดน้ำฝนรถยนต์เสื่อมสภาพ
รอยน้ำบนกระจก : หากปัดน้ำฝนแล้วพบว่ามีรอยน้ำทิ้งไว้เป็นเส้นบนกระจก อาจหมายถึงยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพหรือมีสิ่งสกปรกติดอยู่
เสียงดังหรือสะดุด : หากใบปัดน้ำฝนมีเสียงดังเอี๊ยด ๆ หรือมีอาการสะดุดขณะทำงาน แสดงว่ายางอาจแข็งหรือเสื่อมสภาพ
การปัดไม่สะอาด : หากเปิดที่ปัดน้ำฝนแล้วพบว่ายังมีคราบน้ำหลงเหลืออยู่ ทำให้ทัศนวิสัยไม่ชัดเจน นี่คือสัญญาณว่าใบปัดน้ำฝนควรเปลี่ยน
ลักษณะของยาง : ตรวจสอบว่ามียางแห้งเป็นขุยหรือมีรอยแตก หากพบว่าใบปัดน้ำฝนมีลักษณะเหล่านี้ แสดงว่าเสื่อมสภาพแล้ว
รอยขูดขีดที่กระจก : หากพบว่ามีกระจกถูกขูดขีดจากโครงเหล็กของใบปัดน้ำฝน แสดงว่าใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพและควรเปลี่ยนทันที
การดูแลยางที่ปัดน้ำฝน
ใช้ผ้าชุบน้ำ : ใช้ผ้าสะอาดหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหรือสารทำความสะอาดอ่อนๆ เช่น น้ำยาล้างจาน เช็ดที่ยางปัดน้ำฝนเพื่อขจัดคราบสกปรกและฝุ่นที่สะสมอยู่
หลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรง : ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของสารละลายหรือแอลกอฮอล์ เนื่องจากอาจทำให้ยางเสื่อมสภาพได้
ใช้สเปรย์ซิลิโคน : การพ่นสเปรย์ซิลิโคนบนขอบยางจะช่วยรักษาคุณสมบัติการลื่นไหลและป้องกันไม่ให้ยางเป็นรูพรุน ควรทำประมาณ 3-4 ครั้งต่อปี
หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดด : การจอดรถในที่ร่มจะช่วยลดการเสื่อมสภาพของยางจากแสงแดดและอุณหภูมิสูง
พบกับข่าวสารล่าสุดทาง LINE! มาเช็คข่าวสารและโปรโมชันดีๆ ใน LINE กัน
เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อน คลิกที่นี่!
บทความนี้เรียบเรียงโดย Perplexity AI และ ChatGPT โดยอ้างอิงข้อมูลจาก